วิ่งมาราธอนสู้โรค

BEOGAMING : ในปัจจุบันผู้คน หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพร่างกาย ของตนเองมากขึ้น โดยการ กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ควบคู่ไปกับ การเล่นกีฬาออกกำลังกาย  และ กีฬาที่กำลังเป็นที่นิยมมากที่สุดของไทยก็คือ วิ่ง เพราะเป็นกีฬาที่ง่าย และไม่ซับซ้อน เพียงแค่มีรองเท้าคู่ใจ และหาสถานที่วิ่ง บรรยากาศดีๆ เพียงแค่นี้ ก็สามารถมีสุขภาพแข็งแรงได้อย่างง่ายดาย 

BEOGAMING : แต่ถ้าใคร อยากทดสอบ ตัวเองเพิ่มขึ้นอีก ก็มีรายการแข่งขัน ที่เรียกว่า วิ่งมาราธอน นั้นเอง มาราธอนคืออะไร มาราธอน ก็คือ การวิ่งระยะยาว โดยมีระยะทางที่เป็นสากล คือ 42.195 กิโลเมตร (26 ไมล์และ 385หลา) 

เกิดขึ้นจากเรื่องราวในประวัติศาสตร์ ที่ว่า Pheidippides ผู้ส่งข่าวสารชาวกรีก เขาถูกส่งจากสนามรบ ในเมืองมาราธอน ไปเอเธนส์เพื่อ ที่จะประกาศว่า เปอร์เซีย ได้พ่ายแพ้ในการต่อสู้ที่เมืองมาราธอน มันเป็นเรื่องน่าเศร้า ที่เขาวิ่งมาตลอดทั้งทาง 

โดยไม่หยุดพัก และ เมื่อถึงเมืองเอเธนส์ เขาก็ได้ร้องตะโกนคำว่า เราชนะ ก่อนที่จะล้มลงและสิ้นใจ แต่ก็มีข้อถกเถียงกันอยู่ เกี่ยวกับความถูกต้องทางประวัติศาสตร์ของตำนานนี้ 

การเตรียมตัวก่อนวิ่ง ถือเป็นหัวใจหลัก ที่สำคัญมาก ควรตรวจสุขภาพ และ ทำร่างกายให้พร้อมเสมอ เพราะ ถ้าเตรียมตัวมาไม่ดี พอไปลงวิ่ง อาจได้รับบาดเจ็บ และ เกิดอันตรายร้ายแรงได้  สิ่งที่ควรทำอย่างแรก ก่อนการวิ่งมาราธอน นั้นคือ  การพักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ และ ดื่มน้ำสะอาดเยอะๆ

เพื่อจะได้ทดแทนน้ำ ที่ร่างกายสูญเสียไป และ อันดับต่อมา คือ การทำร่างกายให้ชิน ในการวิ่งระยะไกล สร้างความคุ้นเคย ให้กล้ามเนื้อคุ้นชิน กับการวิ่งระยะไกล ลดอัตราการบาดเจ็บทางกล้ามเนื้อ และ สิ่งสุดท้ายที่ต้องคำนึงถึง คือ การไม่ฝืนตัวเองจนเกินไป ถ้ารู้ตัวเองว่า ควรพอให้หยุดวิ่ง และ ทำการเดินเบาๆ เพื่อการผ่อนคลาย หากยังฝืนต่อไปอาจจะก่อให้เกิดเหตุที่ไม่คาดคิดได้ และ เมื่อร่างกายพร้อม ทุกอย่างพร้อม ถึงเวลาที่จะลงแข่งขันวิ่งมาราธอนแล้ว

การแข่งขัน วิ่งมาราธอน แบ่งออกได้เป็น 5 ระยะทางได้แก่

• ประเภทที่ 1 ฟันรัน Funrun ระยะทางไม่เกิน 5 กิโลเมตร เป็นการวิ่งระดับเริ่มต้น ระยะทางขนาดนี้ จะทำให้ไม่รู้สึกเหนื่อยเกินไป เดิน-วิ่งเพื่อความสนุกสนานจึได้ชื่อว่า funrun
• ประเภทที่ 2 มินิ มาราธอน mini marathon ระยะทาง 10 กิโลเมตร

เป็นระยะทางที่กำลังดี สำหรับผู้ที่ฝึกซ้อมการวิ่งมาพอสมควร ไม่ใกล้ หรือ ไกลไป เป็นการฝึกฝนตัวเอง ให้เข้าใกล้ระดับถัดไป ของการแข่งขันมาราธอน การวิ่ง ระยะนี้ สำหรับผู้ที่ฝึกซ้อมเป็นประจำอยู่แล้ว จะทำให้เหนื่อยกำลังดี กล้ามเนื้อที่ใช้ จะไม่เหนื่อยล้าเกินไป สามารถวิ่งได้ทุกๆวัน

• ประเภทที่ 3 ฮาล์ฟ มาราธอน half marathon ระยะทาง 21.1 กิโลเมตร

เป็นระยะที่หนักเอาเรื่อง สำหรับการวิ่งฮาล์ฟมาราธอน ต้องมีการเตรียมร่างกายที่ดี อาหารการกินต้องดี สภาพร่างกายต้องฟิต และ ฝึกฝนการวิ่งมาเป็นเดือนๆ เพราะนี่ คือครึ่งทางของมาราธอนแล้ว

เป็นการวิ่ง ที่ต้องใช้ความอดทนพอสมควร ใช้พลังงานที่มากขึ้น กว่าประเภทก่อนๆ ฮาล์ฟ มาราธอน จึงเหมาะแก่ผู้แข่งขัน ที่ฝึกฝนมานานจนเกิดความชำนาญ

• ประเภทที่ 4  มาราธอน  marathon ระยะทาง 42.195 กิโลเมตร

ระยะนี้ เป็นระยะที่นักแข่งขันทุกคน ต้องการพิชิตให้ได้ และ สร้างสถิติการวิ่งให้ดีที่สุด เป็นระยะที่มีความแข่งขันกันสูงมาก นักวิ่งที่ฝึกซ้อมมานาน รู้ดี ว่าควรเตรียมตัว และฝึกซ้อมแบบใด เพื่อรับมือกับระยะทางที่ไกลแบบนี้

ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย ถ้าฝึกฝนไม่เพียงพอ หรือ เตรียมร่างกายมาไม่ดี อาจจะเกิดอันตรายร้ายแรงแก่ร่างกาย เหมาะสำหรับนักวิ่งอาชีพ และผู้ที่มีประสบการณ์สูง

• ประเภทที่ 5 อัลตร้า มาราธอน ระยะทาง มากกว่า 42.195 กิโลเมตร

ระยะนี้ เป็นระยะที่รวมนักแข่ง ที่มีความสามารถเหนือบุคคลทั่วๆไป และ มีความอันตรายสูงมากๆ เหมาะสำหรับบุคคลที่ มีประสบการณ์ ผ่านการวิ่งประเภทมาราธอนมาแล้ว 

และ ต้องการก้าวข้าม ขีดจำกัดความสามารถของตัวเอง เพื่อพัฒนาศักยภาพของตัวเองให้ได้มากที่สุด ระยะทางการวิ่ง จะมีตั้งแต่ 50 จนไปถึงหลายร้อยกิโลเมตรแล้วแต่รายการที่ลงแข่งขันกำหนด และ สนามวิ่งก็จะมีระดับความยาก ตั้งแต่ ถนนธรรมดา ภูเขา รวมไปจนถึงทะเลทราย

การวิ่งมาราธอน เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยม ในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน หลายคนลงแข่งขัน เพื่อความสนุก บางคนลงแข่ง เพื่อเจอสังคมใหม่ๆ หรือ ลงแข่ง เพื่อท้ายทายขีดจำกัดของตนเอง จนสามารถต่อยอดเป็นอาชีพได้ 

ข้อดีของการวิ่งมาราธอนมีมากมาย  จึงอยากแนะนำ ให้คนที่อยากเริ่มต้นออกกำลังกายได้รู้จัก กับการวิ่งมาราธอนมากขึ้น เนื่องจาก สังคมปัจุบันนี้ มีมลพิษและโรคระบาดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทั้งฝุ่น pm 2.5 หรือ จากสถาณการณ์ ไวรัสโคโรน่า หรือ ไวรัสCovid 19 ชื่อที่คุ้นหูกัน 

ที่เข้าสู่ประเทศไทย เมื่อตอนต้นปี ทำให้หลายๆคน ต้องระมัดระวังตัว อยู่ที่บ้านไม่ออกไปไหนมาไหน และ ต้องรักษาระยะห่างทางสังคม งดทำกิจกรรมหลายอย่างไป แต่เมื่อสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย จึงไม่อยากให้มองข้ามเรื่องสุขภาพ ลองฝึกวิ่งออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง และจะได้อยู่กับคนที่รักได้นาน วิ่งเพื่อสู้โรคภัย และ วิ่งเพื่อพบความเปลี่ยนแปลง 

ดังคำกล่าว ของนักวิ่งชาวเชโกสโลวัก ที่ว่า“ถ้าคุณอยากจะวิ่ง ก็วิ่งสักไมล์ แต่ถ้าคุณอยากมีชีวิตใหม่ ก็จงวิ่งมาราธอน” เอมิล ซาโตเปก

บทความจาก : BEOGAMING BEO555

awkwardtransit.com